รับซื้อลำโพง JBL | รับซื้อลำโพง เจบีแอล | รับซื้อเครื่องเสียง JBL | รับซื้อ JBL 

รับซื้อลำโพง JBL | รับซื้อลำโพง เจบีแอล | รับซื้อเครื่องเสียง JBL | รับซื้อ JBL 

ประวัติ JBL

บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงลำโพงและหูฟังสำหรับลูกค้าในระดับมืออาชีพ ซึ่งได้ทำออกมาเอาใจทั้งคนทั่วไปและคนที่ทำงานด้านสตูดิโอโดยเฉพาะ รวมถึงระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ด้วยครับ ซึ่ง JBL ก่อตั้งโดย James Bullough Lansing วิศกรที่เชี่ยวชาญเรื่องเสียงและนักออกแบบลำโพงชาวอเมริกันที่โด่งดัง ก่อนที่จะเป็นชื่อ JBL ในทุกวันนั้น เขาทำงานบริษัท Altec Landing sound โดยเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง จากนั้นในปี 1947 ก็ได้แยกตัวออกมาตั้งบริษัทเครื่องเสียงเป็นของตัวเองชื่อว่า Lansing sound และได้ทำการสร้างลำโพงรุ่นแรกชื่อว่า D101 ขนาด 15 นิ้ว จากนั้นได้ผลิตลำโพง D130 ซึ่งได้รับความนิยมและผลงานที่โด่งดังอย่างมาก ในปี 1949 James ได้เสียชีวิตลง ซึ่งเขาได้ทำงานในบริษัท Lansing sound เพียง 3 ปีเท่านั้น

จากนั้น Willam Thomas ได้เข้ามารับช่วงต่อเป็นประธานบริษัทและได้พัฒนาบริษัทต่อไป จนกระทั่งในปี 1955 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Lansing sound เป็น James B. Lansing Sound และเปลี่ยนโลโก้เป็น JBL จนกระทั่งในปี 1969 บริษัท Jervis Corporation (ภายหลังเปลี่ยนเป็น Harman International) ได้เข้ามาซื้อกิจการ JBL แต่ชื่อ JBL ยังคงชื่อเดิม จากนั้นก้ได้มีการคิดค้นพัฒนาสร้างลำโพงมาเรื่อย ๆ จน JBL กลายเป็นแบรนด์มีชื่อเสียงและประสบผลสำเร็จในด้านการขายเป็นอย่างมาก เมื่อเข้าสู่ยุคปี 2000 ได้มีการปรับเปลี่ยนสินค้าของตัวเองให้รองรับระบบเสียงแบบดิจิตอล เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยดิจิตอล ซึ่ง  JBL เองก็ไม่น้อยหน้าแบรนด์เครื่องเสียงดัง ๆ เลยครับ ขอบอกว่าการเดินทางของ JBL ที่มากถึง 70 กว่าปี นั้นไม่เคยทำให้เสียชื่อเสียงเลยสักครั้ง มีแต่การเปลี่ยนสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาจนกลายเป็นไว้วางใจของกลุ่มคนรักระบบเสียงเลยก็ว่าได้ครับ

JBL มีลำโพงอะไรบ้าง

1. ลำโพงบลูทูธ 

ลำโพงไร้สายหรือลำโพงแบบพกพาของ JBL มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ลำโพงขนาดเล็กที่พอดีกระเป๋าไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยมีการพัฒนามาตลอดและได้รับความนิยมมาก เพราะหน้าตาลำโพงมีความสวยงามออกแบบเป็นรูปทรงกระบอก, ทรงกลม และทรงเหลี่ยม รวมทั้งคุณภาพเสียงฟังสนุกทุกย่าน ลูกเล่นก็มีให้เลือกเยอะ ถือว่าพกพาง่ายเคลื่อนย้ายก็สะดวกมากครับ ทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง และใช้งานง่ายเพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เหมาะทั้งใช้งานแบบเปิดเพลงฟังคนเดียวหรือเอาไปใช้เปิดฟังหลาย ๆ คนจัดปาร์ตี้เล็กหลังบ้านของคุณ

2. ลำโพงซาวด์บาร์

JBL ก็มีลำโพงสำหรับโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ใช้งานกับทีวีจอแบนอยู่เหมือนกัน พูดง่าย ๆ เป็นลำโพงเสริมช่วยให้อารมณ์เหมือนดูหนังในโรงหนัง เสียงครบทุกย่าน และมีการเสียงกระจายกว้างออกไปรอบทิศทาง พวกเสียงเอฟเฟคต่าง ๆ สมจริงมากครับ ดีไซน์มาในสไตล์มินิมอลที่ดูเรียบง่ายและทันสมัย ขนาดไม่เกกะจนบังตัวทีวี ทำให้ดูกลมกลืนเหมือนเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นหนึ่งของห้อง อีกทั้งยังติดตั้งง่ายมีช่องสัญญาณน้อย ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อเยอะ ก็สามารถเสียบใช้งานได้ง่าย ๆ และรองรับการทำงานแบบไร้สายอีกด้วยครับ

3. ลำโพงในรถยนต์

หรือลำโพงแกนร่วมในแบบแยกชิ้นลำโพงชิ้นเดียว สำหรับกลุ่มเครื่องเสียงภายในรถยนต์ถ่ายทอดเสียงได้อย่างมีคุณภาพ ตัวลำโพงมีความทนทานออกแบบพิธีพิธัน รูปทรงสวยติดตั้งง่าย รองรับกำลังขับสูง ๆ ได้ และถ่ายทอดเสียงในเกณฑ์ที่ดี ถ้าคุณอยากได้คุณภาพเสียงดีขึ้น ก็ต้องเลือกลำโพงในรถยนต์ของ JBL เท่านั้นครับ เพราะจะให้เสียงดีกว่าของเดิมที่ติดตั้งมากับรถจากโรงงาน

4. ลำโพงแบบมืออาชีพ

เป็นลำโพงใช้งานในสตูดิโอ คอนเสิร์ต และโรงภาพยนตร์ ลักษณะเสียงจะแตกต่างกว่าลำโพงใช้งานทั่วไป โทนเสียงที่ออกมาจากลำโพงประเภทนี้ จะเป็นเสียงที่ไม่ได้ปรับแต่งใด ๆ จากต้นฉบับ ข้อดีคือเสียงสมจริงไม่ผิดเพี้ยน ช่วยลดความผิดพลาดของงานได้ดี เป็นลำโพงที่มีทั้งใช้งานทั้งในห้องและกลางแจ้ง เหมาะกับงานที่ละเอียด เช่นกลุ่มบันทึกเสียงในห้องอัด, การมิกซ์เพลง, ฟังเสียงเครื่องดนตรี, นักดนตรีเล่นเพลงสด และดีเจเปิดเพลงในงานปาร์ตี้ครับ

เคล็ดลับเลือกลำโพง JBL ให้เหมาะสม

1. ตัดสินใจว่าเลือกใช้ลำโพงแบบไหน

หากคุณเป็นคนที่เน้นการฟังเพลงสบาย ๆ อยู่กับที่ หรือจะเป็นสายลุยชื่นชอบในการเดินทางตั้งแคมป์ รวมถึงสายปาร์ตี้ลำโพงบลูทูธถือว่าเหมาะกับการใช้งานแบบนี้มากครับ

หากคุณรักในการดูหนัง ลำโพงซาวด์บาร์ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะมีซับวูฟเฟอร์ช่วยเพิ่มความลึกให้กับเสียงเบส ทำให้เสียงที่ออกมาให้อารมณ์สมจริง แต่ถ้าชอบสร้างผลงานด้านเพลงก็ต้องหันไปเลือกลำโพงแบบมืออาชีพเท่านั้น ดังนั้นเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของคุณครับ

2. แบตเตอรี่ทนทาน

ลำโพงบลูทูธสามารถเปิดเพลงไร้สายได้อย่างง่ายดาย ภายในลำโพงจะใช้แบตเตอรี่ซึ่งเป็นพลังงานให้กับลำโพง ลำโพงบลูทูธแต่ละแบบจะมีความจุแตกต่างกัน ยิ่งมีความจุแบตเตอรี่มากเท่าไรก็ยิ่งใช้ได้ยาวนานมากขึ้น โดยทั่วไปสามารถชารจ์ในเวลาประมาณ 2 ชม. ขึ้นอยู่กับพอร์ตชาร์จหากเป็นพอร์ต USB-C จะชาร์จได้ไว ไม่ต้องรอนาน รองรับใช้งานมากถึง 2-5 ชม. ต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งครับ

3. ตรวจสอบรายละเอียด

คุณภาพของเสียงของลำโพงก็เป็นอีกจุดสำคัญ ก่อนที่ทำการเลือกซื้อคุณจำเป็นดูคุณภาพเสียงก่อนว่าเสียงนั้นตอบสนองได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยการเลือกซื้อควรดูรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

• • กำลังวัตต์ : กำลังวัตต์ที่ลำโพงสามารถรองรับกำลังไฟได้มากเพียงใด มันจะบอกเป็นตัวเลข เช่น 100 วัตต์ เหมาะสำหรับใช้งานจับคู่กับเครื่องขยายเสียง สำหรับลำโพงติดรถยนต์ควรตรวจสอบวัตต์เพื่อให้ใช้งานร่วมกันอย่างเหมาะสมและความปลอดภัยของภัยขณะใช้งาน
  • ความไว : ความไวของลำโพงจะใช้หน่วยเป็น dB หากตัวเลขยิ่งเยอะก็จะยิ่งเพิ่มเสียงดังมากขึ้นครับ
  • การตอบสนองความถี่ : ตัวลำโพงจำเป็นตอบสนองความถี่ที่คนเราสามารถฟังได้ ซึ่งจะอยู่ในช่วงความถี่ตั้งแต่ 20-20,00 เฮิร์ตซ์ ถ้าหากลำโพงนั้นไม่สามารถตอบสนองความถี่ของเสียงดังกล่าวได้ จะทำให้เสียงของลำโพงตัวนั้นเสียงไม่ดีเท่าที่ควร

4. ลูกเล่นฟังก์ชันเพิ่มเติม

มีฟังก์ชันมากมายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกการใช้งานลำโพง อย่างลำโพง JBL ก็มีฟังก์ชันพิเศษเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันแล้วเล่นเพลง ๆ เดียวผ่านการควบคุมด้วยสมาร์ทโฟน หรือสามารถให้เสียงออกเหมือนกันหรือแบบสเตอริโอ บางตัวมีความจุแบตเตอรี่เยอะมากสามารถนำมาชาร์จไฟให้กับโทรศัพท์ได้ และหากมีฟังก์ชันกันน้ำกันฝุ่นกันกระแทกก็จะดีมากครับ หากมีไมค์อยู่ในลำโพงการรับสายคุยโทรศัทพ์ของคุณก็จะสะดวกมากขึ้น

Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th

โทร :  081-9160211 , 081-9160211

รับซื้อลำโพง JBL | รับซื้อลำโพง เจบีแอล | รับซื้อเครื่องเสียง JBL | รับซื้อ JBL